ถ้ามีโอกาสเดินทางมาเที่ยวโคราช อยากจะแนะนำว่า ต้องไม่พลาดโอกาสไปเยี่ยมชม วิหารเทพวิทยาคม วิหารธรรมกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยวิหารตั้งอยู่ในเขตวัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา
วิหารเทพวิทยาคม ชื่อที่ตั้งตามชื่อของหลวงพ่อคูณ คือ วิหารพระไตรปิฎกที่เริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 บนพื้นที่กลางบึงน้ำขนาด 30 ไร่ วิหารมีขนาดกว้าง 60 เมตร ยาว 60 เมตร องค์วิหารเป็นอาคารลักษณะทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร สูงประมาณ 42 เมตร มีทั้งหมด 4 ชั้น ตกแต่งด้วยเซรามิก ตั้งอยู่กลางบึงน้ำของวัดบ้านไร่ สร้างในโอกาสหลวงพ่อคูณ ครบ 90 ปี โดยมีสะพานพญานาค เป็นทางเดินเชื่อมผ่านโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม
วิหารเทพวิทยาคมนี้เริ่มต้นด้วย สะพานพญานาค ที่ทอดกายเป็นสะพานเดินข้ามผ่านสื่อให้เห็นระหว่างโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม จากนั้นจะเป็น ซุ้มประตูบารมีทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ ซุ้มพระอินทร์ ซุ้มพระยม ซุ้มพระพิรุณ และซุ้มพระกุเวร (ท้าวเวสสุวรรณ) ส่วน เสารอบอาคาร เป็นเสาที่บรรจุภพชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิดทั้ง 523 ชาติไว้รอบๆ ด้านผนังรอบนอกนำเสนอจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง ทศชาติชาดก เป็นจิตรกรรมเขียนสีแผ่นเซรามิก
นอกจากนี้ยังมีซุ้มประตูบารมี 4 ทิศ จิตรกรรมฝาผนังรอบนอกเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ทศชาติชาดก สำหรับภายในวิหารก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา อีกมากมาย อาทิ เรื่องราวพุทธประวัติ ตั้งแต่สมัยกำเนิดพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระวินัยปิฎกและวิวัฒนาการของพระพุทธศาสนาหลังจากพระพุทธเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เรื่องราวของพระธรรมปิฎก เป็นต้น
วิหารเทพวิทยาคม เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
วิหารเทพวิทยาคม สวยทั้งสถาปัตยกรรมภายนอก และภายใน เต็มไปด้วยางานศิปลป์ ทั้งงานปั้นและงานเพ้นท์ การจัดวาง ที่แฝงเอาแนวคิดทางพุทธศาสนาอยู่แทบจะทุกตารางนิ้ว และยังตื่นตากับการทำบุญรูปแบบไฮเทค ในการทำบุญที่เรียกว่า เติมบุญ โดยใช้บัตรแทนเงิน เป็นการ์ดเกี่ยวกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้นำกลับบ้านไปด้วย ด้วยการแลกบัตรเติมบุญที่ทางวัดมีจำหน่ายมาแตะตามซุ้มต่างๆ ก็จะได้การ์ดที่มีคำสอนกลับบ้านไปเป็นของที่ระลึก ซึ่งภายในวิหารเทพฯ แห่งนี้มีอยู่หลายซุ้ม หลายจุด จนไปถึงชั้นดาดฟ้าก็ยังมี นอกจากใช้ในการทำบุญตามความเชื่อของชาวพุทธแล้วก็ยังใช้ซื้อสินค้า ของที่ระลึก อาหาร และเครื่องดื่มได้ด้วย ตามยอดเงินในบัตรที่แลกมา
เมื่อพูดถึงพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ
เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนที่ราบสูงที่เป็นที่เป็นที่เคารพของชาวพุทธ
ทั้งหลาย ก็มักจะนึกถึงวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
มีเวลาช่วงวันหยุดปีใหม่ เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดชัยภูมิ ก็เลยแวะไปเที่ยวที่วัดบ้านไร่ นับว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่งกับการได้เช้าชม วิหารเทพวิทยาคม ที่ให้ความประทับใจมาก ก็เลยนำมาบอกต่อ
ซุ้มพญายม
สารพัดงานปั้นตกแต่งด้วยชิ้นโมเสกเล็กๆ ที่สะดุดตาน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง
ซุ้มประตูพระพิรุณ
ซุ้มประตูท้าวกุเวร
ทางเดินรอบวิหารด้านนอก
ยักษ์ตัวเขียวนามว่า ยักษ์เพี้ยง เฝ้าสมบัติ
วิหารเทพวิทยาคมนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ที่บอกกล่าวเรื่องราวทางพุทธศาสนาแล้ว ที่นี่ยังเป็นเสมือนแหล่งรวมงานศิลปะหรือแกลอรี่งานศิลป์ ที่มีงานศิลปะหลากหลาย สวยงามให้ได้เดินชมถึง 4 ชั้น เรียกว่าใครที่ชอบถ่ายภาพ และชอบชมงานศิลปะ ภาพวาด งานปูนปั้น งานโมเสกที่ใช้คนนั่งติดโมเสกทีละชิ้นๆ จนเป็นงานชิ้นใหญ่อลังการละก็ไม่ควรพลาดแวะไปเที่ยวชม สุดคุ้มจริงๆ
เมื่อเดินผ่านเข้าไปด้านในชั้นแรกที่กลางห้องโถงจะพบต้นโพธิ์ถ้าเอาเหรียญโยนลงไปจะเปลี่ยนสีได้รอบๆห้องจะเป็นภาพวาดขนาดใหญ่ที่บอกกล่าวเรื่องราวทางพุทธศาสนาใน
ทางเดินลาดเวียนขึ้นไปตามความสูงซึ่งในแต่ละชั้นเต็มไปด้วยภาพวาดที่สวยงาม
จุดนี้เป็นจุดที่สามารถใช้บัตรที่แลกมามาแตะตรงจุดเพื่อเติมบุญและรับของที่ระลึกได้
ชั้นดาดฟ้ามองเห็นบริเวณวัดบ้านไร่
ชั้นใต้ดิน หรือชั้นบาดาลวิหารเทพวิทยาคม มีหลากหลายมุมมอง จัดแสดงไว้อย่างลงตัว
ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเที่ยวชมนะครับ
สถานที่ที่ไม่ควรจะพลาดชมอีกแห่งหนึ่งเมื่อมาถึงวัดบ้านไร่ก็คือ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ตั้งอยู่ที่ศาลาการเปรียญ (หลังเดิม) ณ วัดบ้านไร่ อ. กุดพิมาน จ. นครราชสีมา จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งศรัทธาและบารมีทานอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอันเป็นที่เคารพศรัทธาของมหาชนทั่วทุกสารทิศ
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ นำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่วัยเยาว์ การอุปสมบทเป็น พระภิกษุ วัตรปฏิบัติในสมณเพศที่ถือสันโดษและเป็นพระนักพัฒนา แรงศรัทธามหาชนที่มีต่อหลวงพ่อคูณ รวมทั้งการบริจาค ทานจำนวนมหาศาล เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและบางส่วนในต่างประเทศ
การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ได้สะท้อนเรื่องราวต่าง ๆ ของหลวงพ่อคูณผ่านภาพจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อบอกเล่า ภาพชีวิตในอดีต สิ่งของเครื่องใช้จำนวนมากมายซึ่งผู้มีจิตศรัทธานำมาถวาย อัฐบริขารและเครื่องใช้จำเป็นในการครองสมณเพศ ภาพเสมือนจริงที่จำลองบรรยากาศการออกธุดงค์ของหลวงพ่อคูณเพื่อแสดงให้เห็น ถึงบารมีธรรมอันยิ่งใหญ่ ประติมากรรมที่สื่อถึงผลบุญของการให้ทานอันเป็นวัตรปฏิบัติสำคัญของหลวงพ่อ และมหาทานอันยิ่งใหญ่ของหลวงพ่อคูณที่ ได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสาธารณประโยชน์ รวมทั้งเมื่อละสังขาร หลวงพ่อคูณได้บริจาคร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ใน การศึกษา แสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ในวิถีสันโดษอันเป็นวัตรปฏิบัติที่หลวงพ่อคูณได้ ยึดถือมาตลอด